หนีป่าคอนกรีตในเมืองไปเดินเขา

จอชและเชอริลได้เปลี่ยนทริปเดินป่าเป็นวันหยุดพักผ่อนหรูหราเต็มไปด้วยอาหารรสเลิศและความผ่อนคลายที่ Fairmont Resort & Spa Blue Mountains

เสียงเรียกจากบลูเมาน์เทนส์

เชอริลและผมไม่สามารถติดอยู่ในเมืองได้เป็นระยะเวลานาน ความเร่งรีบดึงพลังของเรา จนเหนื่อยหน่ายและอ่อนเพลีย ทุกๆ สองถึงสามเดือนเราจำเป็นต้องหลีกหนีป่าคอนกรีตและไปสัมผัสธรรมชาติสองสามวัน บลูเมาน์เทนส์จึงเป็นจุดหมายปลายทางหลักของเรา ทิวทัศน์อันงดงามช่วยให้เราลืมกำหนดส่งงานไปสักพักและช่วยให้เราใกล้ชิดกันอีกครั้ง

เวลาผ่านไปหลายเดือนโดยที่เราไม่ได้หยุดพักเลย ผมโหยหาการพักผ่อนจากทุกสิ่งอย่าง เชอริลก็ทำงานจนแทบจะหมดพลังและผมต้องการจะปลดเปลื้องอาการหม่นหมองที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอออกไปแม้จะเพียงไม่กี่วันก็ตาม ผมจึงจัดเวลาช่วงสุดสัปดาห์ไว้สำหรับเราและมองหาที่พัก สถานที่ประจำของเรานั้นก็โอเคและผมต้องการความพิเศษ ต้องมีสปา ร้านอาหารรสเลิศ และต้องรับบัตรสมาชิก Accor Plus ผมจึงโทรหาเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งจัดงานแต่งงานที่บลูเมาน์เทนส์ไปเมื่อไม่นานนี้ เขาแนะนำ Fairmont Resort & Spa Blue Mountains อย่างไม่ต้องสงสัย และรับรองว่าเป็นที่ที่เหมาะกับความโรแมนติกที่ใกล้กับซิดนีย์ (เขาได้จองห้องเพื่อฉลองทั้งวันเกิดของภรรยาและวันครบรอบแต่งงานหนึ่งปีไว้แล้วด้วย) เขาแนะนำห้องดีลักซ์ หลังจากวางสาย ผมจึงโทรหาโรงแรมทันทีเพื่อทำการจองทันที.

รีสอร์ตใน Blue Mountains ที่ไม่มีที่ใดเทียบเท่า

ผมไม่ได้บอกกับเชอริลว่าเราจะไปพักที่ไหน ผมแค่เกริ่นว่าต้องเตรียมมากกว่าอุปกรณ์เดินป่าและเสื้อผ้าลำลอง เธอชอบความเซอร์ไพร์สแต่ผมเดาออกว่าเธอไม่ชอบแน่หากผมพาเธอไปดินเนอร์ที่ห้องอาหารสุดหรูในบลูเมาน์เทนส์ในชุดเดินเขา

ระหว่างทางไปโรงแรม เราขับรถผ่านหมู่บ้านที่น่าสนใจหลายแห่งและผ่านทิวทัศน์ที่เหลือเชื่อทำให้เราต้องหยุดดื่มด่ำความงดงามนั้น เมื่อที่หมายของเราปรากฏให้เห็น เชอริลเริ่มจะมองผมอย่างสงสัย ยิ่งเมื่อเราเข้าใกล้เธอยิ่งตื่นเต้น ใครจะไปรู้ว่าการได้พักที่ Fairmont Resort & Spa Blue Mountains เป็นทริปหนึ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอด

ห้องดีลักซ์ของเรานั้นเกินความคาดหมาย แวบแรกที่เราได้เห็นบลูเมาน์เทนส์แทบหยุดหายใจได้เลย เตียงกว้างใหญ่นอนสบาย และสปาก็ (สบายสุด) เกินความคาดหมาย! เราเกือบจะอยากลืมการเดินป่าที่วางแผนไว้และนอนเกลือกกลิ้งอยู่ในห้องตลอดสุดสัปดาห์ แต่เสียงเรียกจากธรรมชาตินั้นเกินห้ามใจจริงๆ รีสอร์ตถูกโอบล้อมไปด้วยเส้นทางเดินป่าและเราก็พบว่ารองเท้าบู้ทส์ที่เตรียมมาไม่สูญเปล่า มีบางเส้นทางที่เราเคยเดินแล้วเราจึงเลือกเส้นทางใหม่ อากาศอันบริสุทธิ์ราวกับหมอได้สั่งมาให้และมันทำให้เราอยากยืดเส้นยืดสายเดินออกไปและทำให้หัวใจของเราเต้นแรง

ทุกยามเย็นหลังจากการนวดผ่อนคลายที่สปา Ubika เราให้รางวัลตัวเองด้วยดินเนอร์ที่ห้องอาหารชั้นเลิศของแฟร์มอนท์ เริ่มต้นคืนแรกด้วยบรรยากาศสบายๆ ที่ห้องอาหาร Embers ตามด้วยคราฟท์เบียร์ที่ Sublime Lounge คืนที่สองพิเศษขึ้นมาหน่อยด้วยอาหารหกคอร์สที่ Eucalypt ห้องอาหารซิกเนเจอร์ของรีสอร์ต เราสั่งหอยนางรมแปซิฟิก เนื้อวากิว เนื้อหมูบาร์กเชอร์ และไก่ที่ปรุงรสออกมาได้ลงตัว สลับกับเมนูคั่นล้างปากระหว่างคอร์ส ไม่รวมถึงของหวานเป็นช็อกโกแลตและไวน์ที่เข้าคู่กัน เราได้ชิมอาหารอร่อยเต็มที่เพราะส่วนลดค่าอาหารจากบัตรสมาชิก Accor Plus ของเรา

กลับสู่ความจริง

การเดินเขายามเช้าในวันสุดท้ายของเราช่วยให้โล่งหัวขึ้นมานิดหลังคืนที่แล้วดื่มกันหนักไปนิด (เราไปฉลองส่งท้ายทริปกันที่ Sublime Lounge อีกครั้งแต่เลือกสั่งค็อกเทลแทนเบียร์) เราไม่ลืมที่จะเติมพลังอาหารเช้าที่ Jamison’s ก่อนเช็คเอาท์กลับบ้าน

ขณะที่เราขับรถออกมา เชอริลเริ่มครุ่นคิดและพูดถึงงานอีกครั้ง ผมเลยรีบขัดจังหวะขึ้นมาว่า “ผมว่าเราจองห้องสำหรับวันเกิดของคุณในอีกสองเดือนดีไหม?” ใบหน้าที่ตึงเครียดของเชอริลหายไปทันทีพร้อมถามว่า “เราพักนานกว่าครั้งนี้หน่อยได้ไหม?” “ผมว่าเราจัดการได้นะ” ผมตอบ เธอหันหน้าหลบความดีใจและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ตกลงเลย ฉันก็ไม่ขัดค่ะ”