มินิเบรคในเมลเบิร์น
มินิเบรคในเมลเบิร์น
เมื่อย้อนอ่านบันทึกส่วนตัวทำให้ผมนึกถึงทริปเมลเบิร์นที่แสนมหัศจรรย์ทำให้ผมต้องเริ่มวางแผนการพักให้นานขึ้น
ครั้งหนึ่งที่ผมและมอรีนได้มีโอกาสผ่านไปเมลเบิร์นก็หลายปีมาแล้ว ก่อนที่เราจะขับรถลงไปสำรวจเส้นทาง The Great Ocean Road ริมชายฝั่งรัฐวิคตอเรีย ตอนนั้นเราบอกกับตัวเองว่าเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสเที่ยวเมืองเมลเบิร์นอย่างเต็มที่ เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ตอนที่เราเห็นค่าที่พักที่น่าดึงดูดของโรงแรม Sofitel Melbourne on Collins เราเลยตัดสินใจว่าถึงเวลาที่เราจะกลับไปชมเมืองนี้ให้เต็มอิ่มเสียที แน่นอนว่า 48 ชั่วโมงในเมลเบิร์นมีอะไรให้ทำมากมาย สิ่งที่ยากที่สุดคือการตัดสินใจว่าจะเลือกทำอะไรดี ผมจึงเอาบันทึกของผมจากทริปนั้นออกมาอ่านอีกครั้ง…
10 พฤษภาคม 2562
หลังจากเช็คอินที่โรงแรม เราก็รีบออกไปเดินเล่นริมแม่น้ำยาร์ราตามเส้นทางฟลินเดอร์สวอล์ค พระอาทิตย์สีทองกำลังตกสะท้อนบนผิวน้ำตัดกับตึกสูงระฟ้าในใจกลางย่านธุรกิจเป็นภาพตราตรึงต้อนรับเราอย่างงดงาม เรายังคงเพลียๆ จากไฟล์ทเมื่อเช้า เราเลยหยุดพักที่บาร์แห่งหนึ่งบนถนนฟลินเดอร์สเลนเพื่อจิบจินแอนด์โทนิค เราตัดสินใจว่าจะทานอาหารเย็นกันที่โรงแรม แล้วเราก็เลือกไม่ผิดเพราะมื้อนั้นเป็นอาหารอิตาลีที่อร่อยที่สุดที่ผมจำได้เลย คอนเซียจของโรงแรมโซฟิเทลแนะนำร้าน Pretty Boy Italian Steakhouse เนื้อสเต็กโกเบนุ่มจนละลายในปากเลยก็ว่าได้ ส่วนญอกกี้เห็ดทรัฟเฟิลดำของมอรีนก็สุดยอดเหมือนกัน ที่ดีไปกว่านั้นคือห้องอาหารที่โรงแรม Novotel Melbourne Central อยู่ในสิทธิประโยชน์รับประทานอาหาร Accor Plus ของผมด้วย อาหารมื้อนี้เลยทั้งอร่อยและราคาถูกใจ
11 พฤษภาคม 2562
เช้านี้ หลังจากเราปลีกตัวจากบุฟเฟต์อาหารเช้าได้ เราก็รีบออกไปสำรวจตรอกซอกซอยที่ขึ้นชื่อของเมลเบิร์น ถนนเส้นเล็กๆ อย่างเซนเตอร์เพลส โฮซิเยเลน และดักบอร์ดเพลสเต็มไปด้วยร้านค้าเก๋ๆ บาร์ และแกลเลอรี นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่น่ารักๆ เสิร์ฟกาแฟเมลเบิร์นที่ขึ้นชื่อ ผมได้ถ่ายภาพศิลปะบนกำแพงที่สะดุดตามาหลายรูป ทั้งบง สก็อตต์และแองกัส ยัง บนถนน AC/DC!
การเลือกพักที่โซฟิเทลหมายความว่าเราอยู่ในใจกลางย่านช็อปปิ้งของเมลเบิร์น ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมมอรีนถึงกระตือรือร้นที่จะไปเดินเลือกซื้อของที่ย่านช็อปปิ้งในตึกสไตล์วิคตอเรีย รวมไปถึง Block & Royal Arcades ผมไม่อยากไปกดดันเธอตอนช็อปปิ้ง ผมเลยเลือกทำสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝันมานานคือการไปชมการแข่งขันคริกเกตระดับ AFL ที่สนาม Melbourne Cricket Ground บรรยากาศในสนามจริงสนุกกว่าดูผ่านทีวีที่บ้านเยอะ! เสียดายที่ผมไม่มีเวลาแวะไปที่ National Sports Museum ใกล้ๆ ไว้วันหลังผมค่อยหาเรื่องกลับมาใหม่ก็แล้วกัน
ตอนกลางคืนเราต้องการลองอะไรที่พิเศษสักหน่อย การเลือกร้านอาหารหรูๆ ในเมลเบิร์นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เราได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับร้าน No35 มาเยอะและร้านนี้ยังตั้งอยู่ในโรงแรมที่เราพักอีกด้วย เราเลยไม่ต้องคิดให้มากความ แสงไฟวิบวับจากร้านอาหารบนชั้นดาดฟ้าเป็นฉากหลังที่ตราตรึงใจเหมาะกับมื้ออาหารที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน แกะย่างของผมอร่อยนุ่มละลายในปาก ส่วนมอรีนก็ตกหลุมรักกับปลาแซลมอนย่างซอสมิโซะขาวที่เธอสั่ง เราให้รางวัลตัวเองด้วยการจิบไวน์แดงเคล้าวิวเมืองที่อยู่เบื้องล่าง เราอิ่มท้องและอิ่มใจกับอาหารมื้อนี้มากและรอที่จะหลับพักผ่อนบนเตียงนุ่มสบายไม่ไหวแล้ว
12 พฤษภาคม 2562
เราตัดสินใจว่าวันนี้เราจะเริ่มวันใหม่กันแต่เช้าเพราะเราต่างต้องการไปชมศิลปะพื้นเมืองที่ National Gallery of Victoria คอลเลคชั่นศิลปะพื้นเมืองน่าประทับใจจริงๆ ด้วยผลงานจากศตวรรษที่ 19 ของศิลปินชาวอะบอริจินเจ้าของผลงานแนวร่วมสมัย อัลเบิร์ต นะมัตจิระ
หลังจากไปชมศิลปะกันมาแล้ว เราก็กระโดดขึ้นรถรางข้ามเมืองไปยัง Queen Victoria Market เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1878 โดยภายในตลาดแห่งนี้มีทั้งเนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ และงานศิลปะต่างๆมาตั้งเรียงขายมากมาย รวมไปถึงแผงอาหารเดลี่ที่มีอาหารนำเข้าจากอิตาลีและโปแลนด์ ไปจนถึงตะวันออกลางและแอฟริกา เราเลือกซื้อผ้าพันคอถักมือให้ตัวเองและเสื้อยืดของฝากหลานๆ หลังจากเดินชอปปิงในตลาดมาสักระยะ ท้องเราก็เริ่มร้องกันแล้ว แต่ที่นี่มีสตรีทฟู้ดน่ากินมากมายจนเราเลือกไม่ถูก! ในที่สุดผมก็ตัดสินใจว่าจะลองแกงศรีลังกาหน้าตาจัดจ้าน ส่วนมอรีนเลือกลักซาทะเลของมาเลเซีย
หลังได้จิบกาแฟเมลเบิร์นแก้วสุดท้าย ก็ถึงเวลามุ่งหน้ากลับบ้าน ในขณะที่เรานั่งแท็กซี่ไปยังสนามบิน เราได้ข้อสรุปแล้วว่า สุดสัปดาห์นี้ที่เมลเบิร์นเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น… เราน่าจะต้องวางแผนทริปต่อไปได้แล้ว!
ค้นหา Sofitel Melbourne on Collins